ข้าว..อาหารแสลง..สำหรับคนอยากผอม..จริงหรือ?
เทรนด์การใส่ใจสุขภาพในยุค 2018 ของคนทั่วโลกรวมถึงคนไทยที่ฮิตติดกระแสคือ การออกกำลังกายและการควบคุมอาหาร ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งที่ดีหากทำได้ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์การแพทย์และโภชนศาสตร์ ซึ่งควรศึกษาอย่างถ่องแท้ ในศาสตร์การออกกำลังกายดังที่นิยมมากในปัจจุบัน คือ การเดินเร็ว การวิ่งทนหรือวิ่งมาราธอน ปั่นจักรยานและไตรกีฬา
ส่วนในศาสตร์ทางโภชนาการ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนเน้น “ความอยากผอม” จนบริโภคผิดสัดส่วนที่ควรเป็น โดยเฉพาะการหลีกเลี่ยงการกินข้าว! เพราะมองว่าเป็นของแสลงทำให้อ้วน ซึ่งเมื่อรวมการบริโภคแบบผิด ๆ เข้ากับการออกกำลังอย่างหักโหม ก็จะทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาวได้
มาตรฐานแคลอรี่สำหรับคนไทยที่มีการวิจัยแล้ว ควรได้รับ 1200 -2500 แคลอรี่ในแต่ละวัน
แม้ว่าจะเป็นเรื่องจริงที่ข้าว ซึ่งเป็นอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรตจะมีแคลอรี่อยู่ คือ ราว ๆ 84 แคลอรี่ สำหรับข้าวขาว 1 ทัพพี แต่พลังงานเท่านี้เรียกได้ว่าเป็นสัดส่วนที่น้อย (เทียบได้กับการวิ่งเพียง 14 นาที ก็ใช้พลังงานส่วนนี้หมดแล้ว!) ซึ่งตามมาตรฐานแคลอรี่สำหรับคนไทยที่มีการวิจัยแล้ว ควรได้รับ 1200 -2500 แคลอรี่ในแต่ละวัน ดังนั้นคนที่ “อยากผอม กลัวอ้วน” ควรเน้นการคุมแคลอรี่จากการรับประทานอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลที่มากเกินพิกัดและอาหารที่อุดมด้วยไขมัน ได้แก่ เบเกอรี่ , กาแฟ 3 in 1 , เครื่องดื่มเติมนมสด เป็นต้น โดยเฉพาะไขมันทรานส์จากอาหารเหล่านี้ ที่ทำให้เสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดด้วย
ข้าวเป็นธัญพืชประจำชาติไทยที่ให้สุขภาพดี
ทั้งนี้การบริโภคข้าวซึ่งเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตน้ำตาลเชิงซ้อนที่ให้เส้นใยอาหารตามธรรมชาติ โดยเฉพาะข้าวไม่ขัดสี จำพวกข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ จะทำให้ลำไส้ได้ดูดซึมวิตามินที่จำเป็นต่อการเผาผลาญ (ซึ่งเป็นสิ่งที่คนอยากผอมต้องการ) ได้แก่ วิตามินบีรวม ทั้งยังให้ไฟเบอร์ตามธรรมชาติ ซึ่งจำเป็นต่อระบบขับถ่ายและกำจัดของเสียออกจากร่างกาย รวมถึงเป็นการประหยัดค่าอาหารเสริมหรือวิตามินอื่น ๆ ได้มาก เพราะข้าวเป็นธัญพืชประจำชาติไทยที่ให้สุขภาพดีแก่เราได้ทุกวันในราคาไม่แพง
หลายคนหลีกเลี่ยงข้าว แล้วไปเพิ่มการกินโปรตีนเนื้อสัตว์
การที่หลายคนหลีกเลี่ยงข้าว แล้วไปเพิ่มการกินโปรตีนเนื้อสัตว์ หรือเครื่องดื่มชงโปรตีนต่าง ๆ ในปริมาณที่มากเกินไป จะทำให้ไต ซึ่งเป็นอวัยวะในการกำจัดของเสีย ทำงานอย่างหนัก ทำให้เสี่ยงต่อโรคไตซึ่งยากต่อการรักษา
ดังนั้น การ “งดข้าว” จึงไม่ใช่ทางออกของคนอยากผอม อีกทั้งข้าวยังไม่ใช่อาหารแสลงของคนลดความอ้วน สำหรับคนที่อดข้าวจนร่างกายมีความโหยและเครียด จนเกิดการกระตุ้นสมองให้ “หิว” และอยากรับประทานอาหารจำพวกน้ำตาลเชิงเดี่ยว เช่น น้ำหวาน ลูกอม เครื่องดื่มหวานเย็นต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้เกิดการดูดซึมน้ำตาลเข้ากระแสเลือดและทำให้เกิดความ “อ้วน” ตามมาได้ง่าย เรียกได้ว่า งดข้าวในวันนี้ ผ่านไปสัก 2 ปี คุณอาจจะเกิด YOYO (โยโย่) คือ อ้วนเด้งเกินกว่าที่เคยเป็น แม้จะไม่ได้กินยาลดความอ้วนสักเม็ดเดียว!